การใช้งานระบบ ICT ในยุคปัจจุบัน
ICT
หมายถึง เทคโนโลยีที่ช่วยในการรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ จัดหมวดหมู่เรียงลำดับ สรุป คำนวณ จัดเก็บ ค้นคืน จัดทำสำเนา และแพร่กระจาย หรือสื่อสารข้อมูล ทำให้ข้อมูลกลายเป็นสารสนเทศที่ดี มีความถูกต้อง ตรงตามความต้องการ และเกิดคุณค่าต่อผู้ใช้สรุป
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ICTถูกมองว่าอยู่เบื้องหลังความเจริญด้านเศรษฐกิจยาวนานอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อนช่วงทศวรรษที่แล้ว
มันช่วยพัฒนาพื้นฐานของเศรษฐกิจได้แก่ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบการขนส่ง และช่วยสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
สร้างนวัตกรรมและสร้างค่านิยมเศรษฐกิจที่สำคัญมากไปกว่านั้น ICT ช่วยให้โลกเราเสมือนอยู่ใกล้กันมากขึ้นโดยการปรับปรุงการเผื่อแพร่ความรู้อย่างไร้พรมแดนเปิดกว้างแก่สาธารณชน
กระตุ้นให้เกิดงานวิจัย,นวัตกรรมและการอำนวยความสะดวกต่อการทำงานร่วมกันเกิดเป็นเศรษฐกิจความรู้
วงจรชีวิตของ ICT สั้นลงและมีการพัฒนา ICT ให้ทันสมัยมากขึ้นเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ที่ใช้แข่งขันเศรษฐกิจสร้างความก้าวหน้าในงานทำให้ชีวิตดีขึ้น
ICT กับชีวิตประจำวัน
ระบบ ICT ในปัจจุบันนี้ ได้พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
เป็นลักษณะงานคือสร้างกรอบกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุนสร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาทดแทน ICT เป็นปัจจัย 5 ของมนุษย์
ที่ต้องการมากในปัจจุบันนี้ ซึ่งได้พัฒนาให้เกิดความสะดวกสบายในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร การคมนาคม หรือการขนส่ง ทางระบบ EMS SMS MMS
เป็นต้น โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์ที่นิยมมากในปัจจุบันนี้ เพราะเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่สะดวกสบาย พกพาได้สะดวก และสามารถทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือได้ทุกที่ ฉะนั้นโทรศัพท์มือถือจึงมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน เพราะการสื่อสารได้พัฒนาจากการได้ยินเสียง ระบบ ICT ได้พัฒนาเป็น
3G เพิ่มวิวัฒนาการให้เห็นภาพตัวบุคคล และสอดแทรกระบบนำทาง Navigator เข้ามาอยู่ในอุปกรณ์เสริมให้กับโทรศัพท์มือถือเกือบทุกรุ่นทุกยี่ห่อ นอกจากระบบนำทางนี้แล้ว ยังสามารถทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นห้องประชุมในสถานที่ต่างๆได้โดยการเพิ่มขีดความสามารถของมือถือลงไปอีก
โดยการเปิดช่องสนทนาในระบบวีดีโอลิ้ง Video Link ทำให้ทุกอย่างในชีวิตปัจจุบันนี้สบายมากขึ้นอีกด้วย
และยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมายที่โทรศัพท์เครื่องหนึ่งจะทำได้
ที่ทำให้มนุษย์เราสะดวกสบายมากขึ้นกว่านี้ ตามยุคตามสมัยที่พัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ICT คือระบบที่สำคัญมากในปัจจุบันนี้
โดยทุกๆที่จะต้องมีระบบ ICT หรือระบบสื่อสารต่างๆ
ที่สามารถทำให้ติดต่อสื่อสารธุรกิจต่างๆได้ในโลกนี้ แม้จะอยู่ที่ไหน ก็ยังสามารถต่อติดกันได้ เพราะฉะนั้น ICT คือปัจจัยที่สำคัญต่อชีวิตปัจจุบันมากและทำให้สะดวกสบายอีกด้วย
แนวโน้มการใช้เทคโนโลยีขององค์การธุรกิจ
ปัจจุบันพัฒนาการและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ในองค์การ
ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายแก่ผู้บริหารในอนาคตให้นำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ โดยผู้บริหารต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และวิสัยทัศน์ต่อแนวโน้มของเทคโนโลยี
เพื่อให้สามารถตัดสินใจนำเทคโนโลยีมาใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราสามารถจำแนกผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อการทำงานขององค์การออกเป็น 5
ลักษณะ ดังต่อไปนี้
1. การปรับปรุงรูปแบบการทำงานขององค์การ เทคโนโลยีหลายอย่างได้ถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ และส่งผลให้กระบวนการในการทำงานได้เปลี่ยนรูปแบบไป ตัวอย่างเช่น การนำเอาเทคโนโลยีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail) เข้ามาใช้ภายในองค์การ ทำให้การส่งข่าวสารไม่ต้องใช้พนักงานเดินหนังสืออีกต่อไป ตลอดจนลดการใช้กระดาษที่ต้องพิมพ์ข่าวสาร และสามารถส่งข่าวสารไปถึงบุคคลที่ต้องการได้เป็นจำนวนมาก และรวดเร็ว หรือเทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation) ที่เปลี่ยนรูปแบบของกระบวนการทำงานและประสานงานของผู้บริหารในระดับต่าง ๆ ขององค์การ
2. การสนับสนุนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศผลิตสารสนเทศที่สำคัญให้แก่ผู้บริหารที่จะใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขัน โดยอนาคตการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมจะมีความรุนแรงมากขึ้น การบริหารงานของผู้บริหารที่อาศัยเพียงประสบการณ์และโชคชะตาอาจจะไม่เพียงพอ แต่ถ้าผู้บริหารมีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมาประกอบในการตัดสินใจ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและบริหารงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นผู้บริหารในอนาคตจะต้องสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสารสนเทศที่ดีให้กับตนเองและองค์การ
3. เครื่องมือในการทำงาน เทคโนโลยีถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถที่จะนำมาประยุกต์ในหลาย ๆ ด้าน โดยเทคโนโลยีจะช่วยเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงคุณภาพของการทำงานให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของแรงงาน และวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ ลง แต่ยังคงรักษา หรือเพิ่มคุณภาพในการทำงานหรือการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเทคโนโลยีจะถูกนำเข้ามาใช้ในการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงกระบวนการในการดำเนินขององค์การมากขึ้นในอนาคต
4. การเพิ่มผลผลิตของงานโดยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการใช้งานสะดวกและไม่ซับซ้อนเหมือนอย่างคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ในท้องตลาดยังมีชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Softwareอีกมากมายที่สามารถใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตของงานได้อย่างมาก และเมื่อต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบเครือข่าย ก็จะทำให้องค์การสามารถรับส่งข้อมูลและข่าวสารจากทั้งภายในและภายนอกองค์การได้อีกด้วย ดังนั้นในอนาคตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะกลายเป็นเครื่องมือหลักของพนักงานและผู้บริหารขององค์การ
5. เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ในช่วงแรกของการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานทางธุรกิจคอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็นเพียงอุปกรณ์หลักที่ช่วยในการเก็บและคำนวณข้อมูลต่าง ๆ เท่านั้น ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มีศักยภาพจากทั้งภายในองค์การหรือภายนอกองค์การ โดยไม่จำกัดขอบเขตว่าผู้ใช้จะอยู่ห่างไกลกันเท่าใด ปัจจุบันผู้ใช้สามารถติดต่อเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลก คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทที่สำคัญมากกว่าการเป็นเครื่องที่เก็บและประมวลผลข้อมูลเหมือนอย่างในอดีตต่อไป
แนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์การ แสดงให้เราเห็นได้ว่าในอนาคตผู้ที่จะเป็นนักบริหารและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่เพียงแค่รู้จักคอมพิวเตอร์ แต่จะต้องสามารถใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้จักการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารในอนาคตจะต้องรู้จักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานของตนเอง มีความคิดในการที่จะสร้างระบบสารสนเทศที่ตนเองต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในภาวะที่มีการแข่งขันสูง ทำให้การบริหารของตนเองมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ขณะที่นักวิชาชีพจะใช้ระบบสารสนเทศในการรวบรวม และประมวลผล และจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
1. การปรับปรุงรูปแบบการทำงานขององค์การ เทคโนโลยีหลายอย่างได้ถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ และส่งผลให้กระบวนการในการทำงานได้เปลี่ยนรูปแบบไป ตัวอย่างเช่น การนำเอาเทคโนโลยีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail) เข้ามาใช้ภายในองค์การ ทำให้การส่งข่าวสารไม่ต้องใช้พนักงานเดินหนังสืออีกต่อไป ตลอดจนลดการใช้กระดาษที่ต้องพิมพ์ข่าวสาร และสามารถส่งข่าวสารไปถึงบุคคลที่ต้องการได้เป็นจำนวนมาก และรวดเร็ว หรือเทคโนโลยีสำนักงานอัตโนมัติ (Office Automation) ที่เปลี่ยนรูปแบบของกระบวนการทำงานและประสานงานของผู้บริหารในระดับต่าง ๆ ขององค์การ
2. การสนับสนุนการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศผลิตสารสนเทศที่สำคัญให้แก่ผู้บริหารที่จะใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขัน โดยอนาคตการแข่งขันในแต่ละอุตสาหกรรมจะมีความรุนแรงมากขึ้น การบริหารงานของผู้บริหารที่อาศัยเพียงประสบการณ์และโชคชะตาอาจจะไม่เพียงพอ แต่ถ้าผู้บริหารมีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมาประกอบในการตัดสินใจ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและบริหารงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น ดังนั้นผู้บริหารในอนาคตจะต้องสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการสร้างสารสนเทศที่ดีให้กับตนเองและองค์การ
3. เครื่องมือในการทำงาน เทคโนโลยีถูกนำเข้ามาใช้ภายในองค์การ เพื่อให้การทำงานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ เราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถที่จะนำมาประยุกต์ในหลาย ๆ ด้าน โดยเทคโนโลยีจะช่วยเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงคุณภาพของการทำงานให้ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของแรงงาน และวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ ลง แต่ยังคงรักษา หรือเพิ่มคุณภาพในการทำงานหรือการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเทคโนโลยีจะถูกนำเข้ามาใช้ในการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงกระบวนการในการดำเนินขององค์การมากขึ้นในอนาคต
4. การเพิ่มผลผลิตของงานโดยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการใช้งานสะดวกและไม่ซับซ้อนเหมือนอย่างคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ในท้องตลาดยังมีชุดคำสั่งประยุกต์ (Application Softwareอีกมากมายที่สามารถใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตของงานได้อย่างมาก และเมื่อต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้ากับระบบเครือข่าย ก็จะทำให้องค์การสามารถรับส่งข้อมูลและข่าวสารจากทั้งภายในและภายนอกองค์การได้อีกด้วย ดังนั้นในอนาคตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจะกลายเป็นเครื่องมือหลักของพนักงานและผู้บริหารขององค์การ
5. เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร ในช่วงแรกของการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานทางธุรกิจคอมพิวเตอร์จะถูกใช้เป็นเพียงอุปกรณ์หลักที่ช่วยในการเก็บและคำนวณข้อมูลต่าง ๆ เท่านั้น ปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้มีศักยภาพจากทั้งภายในองค์การหรือภายนอกองค์การ โดยไม่จำกัดขอบเขตว่าผู้ใช้จะอยู่ห่างไกลกันเท่าใด ปัจจุบันผู้ใช้สามารถติดต่อเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันได้จากทุกหนทุกแห่งทั่วโลก คอมพิวเตอร์จึงมีบทบาทที่สำคัญมากกว่าการเป็นเครื่องที่เก็บและประมวลผลข้อมูลเหมือนอย่างในอดีตต่อไป
แนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศขององค์การ แสดงให้เราเห็นได้ว่าในอนาคตผู้ที่จะเป็นนักบริหารและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่เพียงแค่รู้จักคอมพิวเตอร์ แต่จะต้องสามารถใช้คอมพิวเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพ และรู้จักการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผู้บริหารในอนาคตจะต้องรู้จักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกับงานของตนเอง มีความคิดในการที่จะสร้างระบบสารสนเทศที่ตนเองต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในภาวะที่มีการแข่งขันสูง ทำให้การบริหารของตนเองมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด ขณะที่นักวิชาชีพจะใช้ระบบสารสนเทศในการรวบรวม และประมวลผล และจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการค้นหาและตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
ประโยชน์ที่ และ ผลกระทบด้านบวกที่ได้รับจากการใช้ระบบ
ICT
1. ในด้านบันเทิงช่วย
สร้างความบันเทิงในหลายๆรูปแบบ เช่น เครื่องเล่นวีดีทัศน์Internet ฯลฯ
2. ใช้ในทางด้านอุตสาหกรรม
ลดแรงงานมนุษย์ เพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น
3. สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง ครอบครัว ฯลฯ มีการพัฒนามีการใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคมเพื่อให้การสื่อสารสะดวกขึ้น
4. ใช้ในการสร้างอาวุธในหลายๆรูปแบบ
เพื่อที่จะนำมาป้องกันประเทศ
5. ใช้ในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในป่าใหญ่ซึ่งเข้าถึงได้ยาก เช่น ในการจัดการดูแลป่าไม้ที่จะต้องมีการใช่ภาพถ่ายจากดาวเทียมมาช่วยในการดูแลสำรวจ
6.ใช้ทำระบบป้องกันอันตรายโดยใช้แผงควบคุมหรือระบบควบคุมโดยคอมพิวเตอร์
7. ให้ความสะดวกสบายด้านของเรื่องการเรียนการสอน
เช่น การเรียนการสอนโดยใช้วีดีทัศน์ เครื่องฉายภาพ
การใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดเรียงลำดับคะแนน ฯลฯ
8. ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
เช่น ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ควบคุมระบบไฟฟ้า ฯลฯ
9. มนุษย์สามารถศึกษาหาความรู้ได้เองจาก E-leaning
10. มีเทคโนโลยีที่ช่วยในการสื่อสารได้อย่างรวดเร็ว
เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ การรับส่ง E-mail ฯลฯ
11.ใช้ในด้านการวิจัยช่วยเปลี่ยนข้อมูลดิบให้เป็นข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ เช่นข้อมูลธุรกิจและ ช่วยให้ก่อเกิดงานวิจัยและนวัตกรรมด้วยทรัพยากรข้อมูลสารสนเทศที่เปิดกว้างไร้พรมแดน
12. ในด้านนวัตกรรมสร้างนวัตกรรมด้านความสัมพันธ์กับลูกค้าและสร้างความเป็นผู้นำด้านผลผลิต
โดยการทำประวัติของลูกค้า,ฐานข้อมูลของลูกค้าช่วยในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการแก่ลูกค้าได้ขณะที่มีการเคารพสิทธิส่วนบุคคลของลูกค้า,
การใช้เทคโนโลยีก้าวหน้าในการจัดการโปรแกรมข้อมูลคลังสินค้าทั้งหมดนี้อาจช่วยให้องค์กรมีประสิทธิภาพส่งผลให้ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น
13. ด้านการจัดการความรู้ ช่วยจัดเก็บ, เผยแพร่ประสบการณ์
และปัจจุบันมีเครื่องมือซอฟแวร์ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดซึ่งช่วยให้การปฏิบัติการด้านธุรกิจทันสมัยดีขึ้น และให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาระดับสูง ว่าบทบาทของการศึกษาไม่เพียงแต่การเผยแพร่และการสร้างสรรค์ความรู้เท่านั้นแต่ยังรวมถึงการนำความรู้ไปใช้ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อสังคมและธุรกิจด้วย
โทษจากการใช้ ICT และ ผลกระทบด้านลบ
1) ทำให้เกิดอาชญากรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นหนทางในการก่ออาชญากรรมได้
โจรผู้ร้ายอาจใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนปล้น วางแผนโจรกรรมมี การลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร มีการโจรกรรมหรือแก้ไขตัวเลขบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ การลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูลอาจทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง เช่น
การแก้ไขระดับคะแนนของนักศึกษา
การแก้ไขข้อมูลในโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาพยาบาลคนไข้ผิด
ซึ่งเป็นการทำร้ายหรือฆาตกรรมดังที่เห็นในภาพยนตร์
2) ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมมีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว
ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า
มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพากันมาก อย่างไรก็ดีได้มีงานวิจัยคัดค้านและแสดงความคิดเห็นที่ว่าเทคโนโลยีได้ช่วยให้มนุษย์มีการติดต่อสื่อสารถึงกันมากขึ้นและความสัมพันธ์ดีขึ้น
3) ทำให้เกิดความวิตกกังวล
ผลกระทบนี้เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่มีความวิตกกังวลว่า คอมพิวเตอร์อาจทำให้เกิดการว่าจ้างงานน้อยลง มีการนำเอาหุ่นยนต์มาใช้ในงานมากขึ้น
มีระบบการผลิตที่อัตโนมัติมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้แรงงานอาจตกงาน
หรือหน่วยงานอาจเลิกว่าจ้างได้
โดยความจริงแล้วความคิดเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับบุคลากรบางกลุ่มเท่านั้น แต่ถ้าบุคคลนั้นมีการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี หรือมีการพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นแล้วปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น
4) ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า
ข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล อันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายหมด ย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
5) ทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง
ประเทศที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยี
สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการสร้างอาวุธที่มีอานุภาพการทำลายสูง
ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสงครามและมีการสูญเสียมากขึ้น
6) ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
การนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ
ดังเช่นการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าวสารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม
เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
การดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่งจดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ จริยธรรมการใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปลูกฝังอย่างมาก
7) ทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้ง่าย ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนามาก ข้อมูลก็มีความสำคัญมากขึ้นตามไปด้วย เทคโนโลยีทำให้ข้อมูลถูกทำลายได้ง่าย อาจจะถูกทำลายด้วยไวรัสคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่งที่สามารถทำสำเนาตัวเองเข้าไปอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้ สามารถแพร่ไปยังระบบคอมพิวเตอร์อื่นๆ ได้โดยผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์บางชนิดทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลต่างๆ บางชนิดทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง ผลกระทบต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์และจุดประสงค์ของผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น
ว่าต้องการให้โปรแกรมทำงานอย่างไร
ทั้งนี้เราก็ควรจะปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสำนึกที่ดี ไม่ให้ทำลายข้อมูลผู้อื่น
ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้
8) ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการซ่อมบำรุงระบบ และพัฒนาระบบ
9) มีการดูแลที่ลำบาก
เพราะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการดูแล
ตังอย่างองค์กรที่ใช้งานระบบ ICT
องค์กร สำนักทะเบียนของมหาวิทยาลัย เชียงใหม่
วิธีการ
- - การลงทะเบียนเรียนของนักศึกษา
- - การจัดการเก็บข้อมูลของนักศึกษา
- - การติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายระบบ Internet
- - การโอนจ่ายชำระค่าบริการผ่านธนาคาร
- - การประเมินผลคณาจารผ่านระบบ Internet
- - การติดต่อธุรกรรมต่าง ๆที่มีความสะดวกรวดเร็ว
เช่น ปัจจุบันสามารถตรวจสอบข้อมูล พื้นฐาน รายวิชาการเรียน การสอน ที่เปิดสอนได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น สามารถประเมินการเรียนการสอนของคณาจารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่าย Internet
สามารถสอบถามเรื่องต่าง ๆได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดต่อทำธุรกรรมต่าง ๆที่เกี่ยวกับนักศึกษาได้อน่างรวดเร็วผ่านระบบฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย ซึงจากการใช้ระบบ ICT เข้ามาช่วยในการจัดการระบบต่าง ๆขององค์กรทำให้องค์กรมีประสิทธภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในการให้บริการต่าง ๆแก่ผู้ใช้บริการซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ ระบบการทำงานเดิมที่องค์กรไม่ได้ใช้ระบบ ICT เข้ามาช่วยในการดำเนินงานที่มีการดำเนินงานที่ล่าช้าและมีข้อผิดพลาดสูง ซึ่งส่งผลเสียเป็นอย่างมากต่อผุู้ใช้บริการ และ ต่อตัวองค์กรเอง
แสดงความคิดเห็นต่อระบบ ICT
ข้าพเจ้า คิดว่าระบบ ICT มีความสำคัญอย่างยิ่ง
สำหรับการดำเนินงานในองค์กรในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่เทคโนโลยี
มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ระบบ ICT มีความสำคัญมาก
ในการช่วยให้การทำงานขององค์กรมี ระสิทธิภาพมากขึ้นและ
ช่วยลดภาระด้านต่างๆขององค์กร เช่น ระยะเวลาการติดต่อสื่อสาร ลดต้นทุนค่าเอกสาร
เป็นต้น นอกจากผลดีในด้านต่าง ๆของระบบ ICT แล้วองค์กรยังต้องคำนึงถึงผลเสียที่ตามมาจากการใช้ระบบ
ICTด้วยเช่นกัน เพราะไม่อย่างนั้นแล้วแทนที่ระบบจะช่วยทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ อาจจะกลายเป็นอุปสรรค์ทำให้องค์กรเกิดปัญหาตามมาในภายหลังอย่างมากมายเช่นกัน
ดังนั้นในการใช้งานระบบ ICT องค์กรควรที่จะศึกษาและวางแผนถึงผลกระทบจากการใช้ระบบ
ICT ที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อให้องค์กรสามารถให้งานระบบ
ICT ให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากที่สุด
คลิปตัวอย่างการพัฒนาการ และการประยุกการใช้งานของ ICT
Short History of ICT at ITU Telecom World 2012
ICT and Climate Change
อ้างอิง
งานวิจัยนวัตกรรมและการจัดการความรู้:การศึกษาปัจจัย ICT .[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก : http://www.gotoknow.org/posts/519801(วันที่ค้นข้อมูล : 23 กุมภาพันธ์ 2556).
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร: ICT
กับชีวิตประจำวัน.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก : http://www.mict.go.th/ewt_news.php?nid=4141&filename=index
(วันที่ค้นข้อมูล : 23 กุมภาพันธ์ 2556).
ICTกับสวนดุสิต: / ประโยชน์ของ ICT.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก :
http://handhaha.blogspot.com/2011/01/ict-ict-ict.html (วันที่ค้นข้อมูล : 23
กุมภาพันธ์ 2556).
โลกใหม่แห่งการเรียนรู้ของครูนก:ประโยชน์ ของการใช้ ICT.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก
: http://www.gotoknow.org/posts/383942(วันที่ค้นข้อมูล : 24
กุมภาพันธ์ 2556).
ผลกระทบทางลบที่เกิดจากICT:ผลกระทบทางลบที่เกิดจากICT.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก
: http://kikuza-shinoz.blogspot.com/2010/02/ict.html(วันที่ค้นข้อมูล
: 24 กุมภาพันธ์ 2556).
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น